ลองเล่น Projector รุ่น C1080 Cast Version โปรเจคเตอร์ Full HD ขนาดกระทัดรัด ราคาสามพันห้า แต่ส่งภาพได้จากทั้งมือถือ Android หรือ iOS, แท็บเล็ต และ โน๊ตบุ๊ค ผ่านทั้งระบบมีสาย และไร้สาย รวมไปถึง Android Box ให้กลายเป็นทีวีจอใหญ่เต็มผนัง...
อันนี้ยืมเพื่อนมาเล่นเพราะเห็นว่าเจ๋งดี เลยเอามาลองให้ดูกัน เป็น Projector ขนาดเล็กน้ำหนักเบา เสียบปลั๊กใช้งานได้เลยมีรีโมทพร้อม คิดว่านอกจากใช้นำเสนองานนอกสถานที่แล้ว ยังสามารถใช้เพื่อดูหนังเล่นเกมภายในบ้านได้อีก...
ตัวเครื่องสามารถฉายภาพขนาดความละเอียด 1920 x 1080 px ได้เต็มโดยไม่ลดขนาด และสามารถฉายตั้งแต่ระยะสั้นสุด 1.5 เมตร (ใกล้กว่านั้นปรับโพกัสไม่ได้) ไปจนถึงระยะห่าง 4 เมตร ลองฉายที่ผนังบ้าน ไกล 12 เมตรตอนกลางคืนก็ยังได้ (แต่ภาพมันจะล้นเกิน)...
ความสว่าง 150 Ansi ในที่มืดหรือสลัวคือชัด แต่ถ้าในห้องที่เปิดไฟก็ยังพอมองเห็น (ดูรูปท้าย ๆ ) ตัวหลอดเคลมว่าใช้งานได้ 50,000 ชั่วโมง หารต่อวันเล่นวันละ 8 ชั่วโมง ได้ 6,250 วัน ตีราว ๆ 17 ปี 1 เดือน ถึงตอนนั้นคงมีรุ่นอื่น ๆ มาใช้แทนแล้ว...
เท่าที่ลองเอามาต่อกับมือถือแบบไร้สาย สามารถ Cast ภาพขึ้นไปได้ทั้งแบบจากแอปเล่นวิดีโอปกติ ที่ Cast ขึ้น Smart TV หรือ Android Box ได้ รวมไปถึงทำ Mira Cast ที่ส่งภาพไปทั้งหน้าจอ (เอียงภาพตามแนวที่ถือมือถือได้หมด) ซึ่งอันนี้สะดวกดี เพราะไม่ต้องใช้สายเชื่อมต่อเลย และที่สำคัญภาพและเสียงตามไปที่ตัว Projector หมด ทั้ง Android, iPhone และ iPad รวมถึง Airplay บน MacBook วิดีโอถ้าเอาตามปากเลยผ่านไร้สายไม่มีดีเลย์เลย เพราะภาพและเสียงไปประมวลผลยิงพร้อมกันบนโปรเจคเตอร์ทั้งหมด...
ลองเชื่อมต่อผ่านสาย ตัว iOS ทำได้ดี แค่ใช้สาย USB iPhone แท้เสียบเข้าไป ภาพทั้งจอก็ขึ้นทันที สามารถเล่นเกมดูหนังต่าง ๆ ได้ไม่มีปัญหา...
แต่การเชื่อมต่อสายผ่าน Android จะมีขึ้นให้โหลด App มาเพื่อเชื่อมต่อ ซึ่งแม้กระทั่ง มือถือค่าย Xiaomi ที่ไม่เคยมีภาค HDMI Out เลย พอต่อสายและเชื่อมผ่านแอป ก็สามารถส่งภาพขึ้นไปบนจอได้ แต่มีจุดสังเกตคือเสียงจะไม่ไปด้วย จะเล่นเสียงบนมือถือ ทำให้เวลาเล่นภาพกับเสียงมีการดีเลย์นิดหน่อย พอเห็นเลยว่าเสียงไปก่อนภาพปากขยับ ซึ่งแก้ปัญหาด้วยการ Cast แบบไร้สาย...
การ Cast แบบไร้สาย ถ้าไม่มีเน็ตให้ใช้ Mira Cast จะส่งภาพท้ังจอไปที่โปรเจคเตอร์เลย แต่ถ้ามี Wifi สามารถใช้ลักษณะการ Cast ในวง Wifi เดียวกันได้ (แต่ต้องเป็น Wifi 2.4G เท่านั้น)...
โน๊ตบุ๊ค PC ต่อสาย HDMI ขึ้นจอได้เลยไปทั้งภาพและเสียง MacBook ก็ทำได้ผ่านตัวแปลง แต่สามารถใช้ AirPlay ส่งภาพและเสียงขึ้นจอแบบไร้สายสะดวกกว่า ภาพระดับ Full HD ทั้งหมด ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้รู้สึกสะดวกสบายต่อการนำไปใช้เพื่อการนำเสนองานข้างนอกมาก ๆ ...
สำหรับคนที่อยากได้สมาร์ทีวีจอใหญ่ ๆ แบบ Full HD สามารถต่อกล่องทีวี อย่าง Mi Box S หรือกล่องค่ายอื่น ๆ ในตัวอย่างผมใช้ Mi TV Stick ก็ทำให้ภาพที่ได้คมชัดระดับ Full HD ทันทีทั้ง youtube และอื่น ๆ ซึ่งอันนี้รู้สึกว่า ชัดกว่าการ Cast youtube ขึ้นจากมือถือผ่านการต่อสาย หรือ Mira Cast...
การต่อแฟลชไดรฟ์เพื่อเปิดไฟล์วิดีโอสามารถทำได้ดี เปิดไฟล์ MP4 ขึ้นทันที แต่ถ้าเป็นเพลง จะต้องเป็นไฟล์ AAC หรือ Flac ไฟล์ MP3 จะเปิดไม่ได้...
การฉายภาพถ้ามีจอ Projector ย่อมคมชัดและสว่างกว่า แต่เท่าที่ลองมากับผนังบ้าน ก็ยังคงสามมารถเล่นได้อยู่ดูเพลิน ๆ ไม่มีปัญหาอะไร สามารถเล่น RoV จบเกม 5v5 ได้และรู้สึกดีที่ได้เล่นจอใหญ่ ๆ คนชอบดูหนัง หรือเล่นเกมจอใหญ่ ๆ น่าจะชอบตรงนี้ แต่มันได้สูงสุดที่ Full HD...
ตัวเครื่องนั้นด้านหน้าเลนส์มีตัวปรับโฟกัสแบบหมุนมือเอง, ส่วนการเอียงสัดส่วนภาพในการฉายแล้วจอไม่ตรรไม่สามารถปรับได้ ใช้การตั้งกับขากล้องหรือวางให้ตรงกับผนังเอา การเปลี่ยนภาษาสามารถทำได้แต่ไม่มีภาษาไทย และการ Cast แบบ Chrome Cast จะต้องเชื่อมต่อ Projector ผ่าน Wifi ด้วย ถ้า Mira Cast ไม่ต้องพึ่ง Wifi ในบ้าน...
ข้อจำกัดของโปรเจคเตอร์ตัวนี้ มีแค่ต้องเสียบปลั๊ก ไม่มีแบตเตอรี่ในตัว ไม่มีฟังชั่นการปรับเอียงหน้าจอต้องตั้งตรงกับผนัง รวมถึงไม่มี OS ในตัวด้วย จึงต้องอาศัยอุปกรณ์อื่น ๆ เพื่อเล่น...
EZX C1080 Cast Version ราคา 3,590 บาท มีให้เลือกหลายช่องทางในการซื้อตามสะดวก...
Shopee : https://shp.ee/sc2hu74 (มีใส่ Code คืน 350 coins)
Lazada : https://bit.ly/3bxvV6m
JD Central : https://u.jd.co.th/tftImgl (รับสูงสุด 1795 Point)
*Disclosure: เนื้อหานี้ เขียนจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียน และโดยยืมจากเพื่อนที่ซื้อมาอีกทีนึง...